7 เหตุผลที่ว่า เพราะเหตุไรคนขี้เกียจก็เลยไปถึงเป้าหมาย

[Shopd2]

ความขี้เกียจ" เป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่ในตัว เพียงละคนจะมีมากมายหรือมีน้อยแค่นั้น คนไม่ใช่น้อยมักมองว่า "ความขี้เกียจ" เป็นสิ่งเ ล ว ร้ า ย ที่จะนำพาชีวิตดำดิ่งแล้วก็มีแต่ว่าจะก้าวถอยหลัง แต่ว่าจะกำเนิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้าหากพวกเรากำลังจะกล่าวว่า "ความขี้เกียจ" ของคน เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่ทำให้มนุษย์เรานั้นมีทิศทางจะประสบความสำเร็จ!

คุณเคยรู้มาก่อนไหมว่า จริงๆแล้ว ผู้ที่มีนิสัยขี้เกียจมากมายหลายๆคน กลายเป็นคนที่บรรลุความสำเร็จในชีวิตอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น Charles Darwin ที่ว่ากันว่า เขาเป็นคนขี้เกียจมากกว่าตัว.ซะอีก


ขี้เกียจคร้านขนาดไหนรู้ไหม? ขี้เกียจคร้านจนกระทั่งคุณครูรวมทั้งบิดามารดาของเขา รู้สึกทุกข์ท ร ม า น และต้องรอผลักดันเขาอย่างหนัก เพื่อที่จะให้เขาไปสถานศึกษาในวัยเด็ก

หลายครั้งที่เขาหลับในชั่ ว นาฬิกาเรียน และไม่เคยกระทำการบ้ า นมาส่ง ถึงเขาจะกลายเป็นนักวิทย า ศาสตร์ และก็คนเขียน แม้กระนั้นผลงานแต่ละชิ้น ก็ใช้เวลานานอย่างยิ่งกว่าจะเสร็จได้

ตัวอย่างก็ของคนขี้เกียจคร้านผู้ดังก็เป็นWinston Churchill เค้าเป็นผู้ที่มีคะแนนตอนยุคเรียน แ ย่ สุดๆตั้งแต่อนุบาล จนกระทั้งยังจบมัธยมศึกษาตอนปลาย เขา

ไม่อาจจะเข้าชั้นเรียนต่อในมหาวิทย า ลัยได้ เค้าเกลียดชังเล่นกีฬา ไม่ชอบทำกิจกรรม แต่สิ่งที่เขาชอบคือ การนั่งเฉยๆอยู่บนเก้าอี้โยกแค่นั้น ในที่สุด เขาเปลี่ยนเป็นนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว หน้าที่หลักของเขาก็คือ การนั่งอยู่บนเก้าอี้แบบที่เขาถูกใจ


ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีบุคคลที่ไปถึงเป้าหมาย รวมทั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์อีกหลายต่อหลายคน ที่ถูกตราหน้าว่า เป็นไอ้ตัวขี้เกียจคร้าน ดังเช่นว่า Einstein, Newton, Picasso, Mendeleev และก็อีกมากมาย เมื่อมองจากรายชื่อแล้ว เรามั่นอกมั่นใจเลยว่า คุณจะต้องมีเรื่องที่น่าสงสัยอยู่ในใจเยอะไปหมดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่แต่ พวกเขาก็ทำให้ได้มองเห็นกันแล้วว่า คนขี้คร้าน ก็สามารถประสบผลสำเร็จในชีวิตได้

วันนี้พวกเราก็เลยนำเอาเรื่องราวแล้วก็เหตุผลที่แสดงให้ว่า คนที่ขี้คร้าน มีทิศทางที่จะไปถึงเป้าหมายแถมมากยิ่งกว่าคนปกติซะด้วย

1.ไม่รู้จักเพราะเหตุใดแต่ว่า... คนขี้เกียจส่วนมาก มักจะมีความคิดประดิษฐ์มากกว่าคนปกติ โดยยิ่งไปกว่านั้นหากว่า คนขี้คร้านจะต้องเข้าไปเกี่ยวพันในเรื่องของการจัดแจงด้วยแล้ว คุณจะยิ่งมองเห็นความสร้างสรรค์ของพวกเค้าเพิ่มมากขึ้น

นั่นเพราะว่า คนขี้เกียจมักจะไม่ชอบอะไรที่มันซับซ้อน รังเกียจการเสียเวลาและก็อะไรที่มีระเบียบเข้มงวด พวกเขาอย า กรีบทำอะไรให้เสร็จไวๆจะได้เอาเวลาไปทำอะไรสไตล์คนขี้เกียจๆดังนั้น

ทดลองสังเกตบุคลากรสถานที่ทำงานที่คุณอยู่มองก็ได้ว่าพนักงานคนไหนกันที่ว่าขี้เกียจคร้าน เมื่อโดนใช้งาน พวกเขาจะรีบหาทางลัดที่มีประสิทธิภาพได้ใกล้เคียงกันเสมอๆเพราะเหตุว่าคนคนเกียจคร้านจะพย า ย า มทำทุกแนวทางให้ชีวิตง่ายมากยิ่งขึ้น

เครื่องขุดดินอัตโนมัติก็สำเร็จงานจากคนขี้เกียจคร้านคนหนึ่ง ที่ไม่อย า กจะใช้จอบขุดดิน เพราะเหตุว่ามันอิดโรยแล้วก็เสียเวล่ำเวลา เครื่องดูดฝุ่นเองก็ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากเขาขี้เกียจจะขัดฝุ่นละอองด้วยผ้า เขาก็เลยคิดค้นเครื่องดูดฝุ่นขึ้นมา คนใดกันจะไปรู้กันล่ะว่า ไอตัวเกียจคร้านทั้งหลายแหล่ในวันนี้ อาจจะคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอนาคตก็เป็นได้

2.คนขี้เกียจคร้าน มักกล้าได้กล้าเสีย คนเหล่านี้มักมีโครงงานแล้วก็ความนึกคิดจำนวนมากเต็มหัวไปหมด เนื่องด้วยพวกเขาว่าง (จากการรีบดำเนินงานสไตล์คนเกียจคร้านเสร็จแล้ว) วันๆไม่ค่อยจะทำอะไร ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ปลดปล่อยความนึกคิดให้เกิดขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็ลอยออกมาจากส ม อ ง ไปวันๆหรือที่บางบุคคลจะใช้คำว่า คิดเพ้อฝัน หรือคิดอะไรไร้ส า ร ะ


แต่คุณหารู้ไม่ว่า สิ่งที่คนพวกนี้คิดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นไอเดียที่รองรับในสิ่งที่ต้องการของคน โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องความสะดวกสบาย แถมมันยังเป็นไอเดียที่แปลก

แตกต่างกันกับสิ่งที่อยู่แล้วในตลาดอย่างแน่แท้ พวกคนขี้เกียจนี่แหละ นักเริ่มตัวยง เพียงแต่ขอให้เค้าลงมือทำด้วยเท่านั้น ไม่ใช่สักแม้กระนั้นคิด รับประกันได้เลยว่า ต้องมีอะไรเยี่ยมๆพิศดาร เกิดขึ้นบนโลกอย่างแน่นอน

3.คนไม่ใช่น้อยเจอปัญหา การพักผ่ อ น ไม่เพียงพอ บางคนใช้พ ลั ง งานมากมายไปในทุกวัน แต่ว่าไม่รู้จักว่า ตัวเองควรจะพักผ่ อ น ตอนไหน

แต่สำหรับคนขี้เกียจแล้ว พวกเขารู้ว่า ตอนไหนที่พวกเขาอ่อนแรงแล้ว ตอนไหนที่พวกเขาอย า กนอน ตอนไหนที่จะกล่าวคำว่าเพียงพอ แถมการเป็นคนขี้เกียจที่ชื่นชอบในด้านการพักผ่ อ น เป็นพิเศษนี่เอง

ร่ า ง ก า ยของพวกเขาส่วนมากจึงแข็งแรงกว่าอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับคนขยันๆอย่างนักวิทย า ศาสตร์ ที่จะต้องตื่นมาเฝ้าการทดสอบกลางดึก เมื่ออายุได้ 40 ปี ร่ า ง ก า ยของผู้ที่ใช้งานมันไปกับการทำงานหนัก จะร่วงโรยเร็วกว่าคนเกียจคร้านเกือบจะเท่าตัวเลยทีเดียว

4.คนขี้เกียจคร้านนั้น ลือชื่อในเรื่องความ Chill อยู่แล้ว พวกเขาช้าๆ ไม่รีบร้อน ใช้เวลาอย่างเอื่อยเฉื่อย ซึ่งงผลให้ไม่ค่อยมีความเ ค รี ย ด

ในทางกลับกัน ผู้ที่แอคทีฟตลอดเวลาหรือคนขยัน ส่วนมากชอบมีลักษณะตระหนกตกใจรวมทั้งเพ้อเจ้อซ่อนอยู่ลึกๆในจิตใจ พวกเขาจะกังวลใจว่า จะทำสิ่งนี้ทันไหม จะตื่นไปทำธุระไหวหรือเปล่า

ทุกอย่างที่เขาคิดนั้น มันมากเกินวิธีการเตรียมตัวเพื่อที่จะไปไกล กระทั่งกลายเป็นคนเล็กๆน้อยๆ ขี้โหโม ใจร้อน เนื่องมาจากความเ ค รี ย ดที่ตนเองสุมเอาไว้ในแบบไม่รู้ตัว ซึ่งต่างกับคนขี้เกียจ ที่ทำอะไรก็เบาๆเรื่อยๆพวกเค้าจึงกลายเป็นผู้ที่ใจเย็นกว่า รวมทั้งผ่ อ น คลายมากยิ่งกว่า ในแทบทุกๆเรื่องในชีวิต

5.คนขี้เกียจคร้านโดยมาก มักรู้จักการจัดการเรียงลำดับก่อนหรือหลังตามความสำคัญได้เป็นอย่างดี พวกเขาจะตัดขั้นตอนที่ไม่มีความสำคัญออก เพื่อย่นเวลาและเพื่อไม่ให้กำเนิดขั้นตอนที่ยุ่งย า กต่อชีวิตพวกเขา

พวกเขาก็เลยเป็นพวกที่เมื่อจะทำอะไร ก็ตามจำต้องได้ผลได้เร็วที่สุดและแจ่มแจ้งที่สุด นั่นคือข้อดีอีกอย่างนึงของคนขี้เกียจ ที่ในบางครั้งคนขยันๆทำไม่ได้ หรือทำเป็นก็บางทีก็อาจจะช้ากว่า โดนชิงไปเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย

6.คนขี้คร้านไม่ได้แสดงว่าไม่ฉลาดเสมอ คนที่น่าสังเกตที่สุดเป็นคนขี้คร้านที่ฉลาดหลักแหลม เพราะถ้าหากว่าเกียจคร้านแล้วยังโ ง่ ด้วยนี่ก็จบข่าว ขยันแต่ว่าไม่ฉลาดก็จบด้วยเหมือนกัน หากขยันด้วยเฉลี่ยวฉลาดด้วย โน่นก็นับว่าเป็นคนภายในอีกจำพวก

แต่ที่บอกว่า คนขี้คร้านที่ฉลาดนั้นน่าจับตามาองก็เพราะเหตุว่าคนเกียจคร้านพวกนี้ จะใช้ส ม อ ง ที่ยอมยอดเยี่ยมของเขา ทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้เร็วทันใจ ขั้นตอนน้อย พูดได้ว่าหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดและง่ายที่สุดให้กับตนเองได้เสมอ ดังนั้นถ้าหากคุณจะต้องเลือกลูกน้องสักคน ให้คนเลือกคน เกียจคร้านแต่ว่าฉลาด แล้วคุณจะสบาย

7.เมื่อมี Application, Program หรือ Technology อะไรใหม่ๆรวมถึง Gadgets ใดๆที่สามารถจะช่วยให้ผู้คนดำเนินการได้รวดเร็วทันใจหรือช่วยทุ่นกำลังได้นั้น เหล่าคนขี้เกียจคร้านทั้งหลายจะรู้เรื่องทั้งสิ้น

แถมคนขี้คร้านยังจะใช้งานมันได้เร็วกว่าคนธรรมดาทั่วๆไปถึง 2 เท่าเลยทีเดียว ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่แปลกที่คุณจะมีความคิดเห็นว่าคนเกียจคร้านเหล่านี้ พย า ย า มหาสิ่งใหม่ๆอัพเดทล่าสุด มาทดสอบการใช้อยู่เสมอ

โน่นก็เนื่องจาก เขากำลังหาทางที่จะสบายมากขึ้นอยู่นั่นเอง ถ้าคุณอย า กสบาย ก็ปฏิบัติตามเขา แม้กระนั้นหากคุณมีความคิดแบบงั้น ก็มีความหมายว่า คุณมีทิศทางเป็นคนเกียจคร้านขึ้นมาแล้วล่ะ

ศ.จ. Arnold Ludwig เคยทำการพินิจพิจารณาคนมามากยิ่งกว่า 1,000 คน ที่ประสบผลสำเร็จในชีวิตลำดับสูงสุด ได้ผลสรุปที่น่าสนใจมาอย่างหนึ่ง มันก็คือ นอกเหนือจากการมีพรสววรค์แล้ว ตามหลักการธรรมชาติ อะไรบางอย่างนั้นไม่อาจจะรีบเร่งได้และก็อยากได้การใช้เวลา

แน่นอนว่ามันบางทีอาจจะฟังดูไม่ตรงกัน กับยุคสมัยที่อะไรก้จำเป็นต้องฉับไวไปหมดเดี๋ยวนี้ แต่ว่าโน่นเป็นความเป็นจริง ขนาด Einstein เอง ก็ยังเคยบอกว่า ก็นั่งเฉยๆแบบคนเกียจคร้านมันบางทีอาจจะดูน่าระอา

แต่มันเป็นกระบวนการที่สุดยอด สำหรับเพื่อการพัฒนาจินตนาการ และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของคุณ ดังนั้น คนขี้เกียจที่คุณเห็นจริงๆแล้ว พวกเค้าก็มีมุมดีๆแอบซ่อนอยู่เช่นกัน เพียงแต่ว่าโอกาสที่เขาจะลงมือทำนั้น มันย า กกว่าคนสามัญเท่านั้นเอง
ขี้เกียจ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13490/