• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ผู้ที่ประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าคนนายคนมักจะคิดแบบนี้

Started by Ailie662, April 07, 2023, 01:28:27 AM

Previous topic - Next topic

Ailie662

ในขณะที่ยังเป็นเด็กนักเรียน หลายท่านต่างเชื่อเสมอว่าถ้าเกิดได้ตั้งมั่นเรียน สอบติดคณะที่ใช่

ยิ่งได้โอกาสได้งานที่ดี เงินเดือนที่ดี และยิ่งเป็นอาชีพที่คนใดกันแน่ก็รู้จักตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่รัฐ, วิศวกร


นักธุรกิจยิ่งน่าภาคภูมิไปใหญ่ เพราะว่านอกเหนือจากค่าจ้างรายเดือนที่ได้ ส ม น้ำ ส ม เ นื้ อ มีมากมายพอที่จะอุดหนุน


ครอบครัวได้ มีผลประโยชน์รองรับให้สุขยังเป็นอาชีพที่นับว่า "มีหน้ามีตา" ใครกันแน่ก็ต้อนรับกันหมด

แต่ในโลกของความจริงแล้ว อาชีพที่ "มีหน้ามีตา" ในสังคม มิได้เหมาะสมกับทุกคนเสมอ

และก็ในแต่ละอาชีพ เขาก็มีการกำหนดอัตรารับสมัครแต่ละปีที่ออกจะจำกัดน่ะสิ !

"แล้วจะเรียนไปเพราะเหตุใด ถ้าหากท้ายที่สุดก็ได้งานที่ไม่ตรงสาย/ งานที่น้อยคนจะรู้จัก/ เงินเดือนที่มิได้มากไม่น้อยเลยทีเดียวอะไร ?"

ปัญหานี้จะได้คำตอบที่ เ ค รี ย ด มากมายเลย เพราะมันเต็มไปด้วยความคาดหวังที่รู้สึกว่า

"พวกเรามีทางเลือกอยู่ไม่กี่อย่างในชีวิต" แม้กระนั้นถ้าเกิดทดลองกลายเป็นความคิด "ฉันดำเนินงานอะไรก็ได้


ไม่ว่าจะตรงสายหรือไม่ก็ตาม" มันบางทีอาจดูประโยคขี้แพ้ในสายตาบางบุคคล


แต่หากคิดๆดูแล้ว มันได้การสบายใจ มากมายกว่าการตั้งปัญหาแบบแรกเพราะเหตุว่าความเป็นจริงของชีวิตเป็น

1. มนุษย์ทุกคนมีความสามารถในตนเอง "แตกต่างกัน" กันไปพวกเราไม่มีความจำเป็นที่ต้องเก่งแบบเดียวกันหมด

2. ในรั้วสถานศึกษา- ม ห า วิ ท ย า ลั ยต่อให้เราได้เรียนกับคุณครูที่เก่งเพียงใด

ขอบเขตวิชาความรู้มันก็เป็นเพียงวิชาความรู้ในรั้วเพียงแค่นั้นโลกของวัยผู้ใหญ่ที่โตขึ้น พวกเรายังจำต้องรู้เห็นอีกมากมาย

ทำความเข้าใจกันอีก ย า ว ลองถูกลองผิดกันอีกมากเพราะฉะนั้น จะมา ฟั น ธ ง ว่าเรียนมาสายวิทย์

จะต้องดำเนินงานสายวิทย์ เรียนสายภาษาจำต้องปฏิบัติงานสายภาษา มันก็ไม่ถูกเสมอไป

3. มันเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์เราควรต้องวิ่งตามหาสิ่งที่ "ใช่"

เบาๆเรียนรู้ เบาๆปรับนิสัยไป สิ่งที่เรากำลังสนุกสนานปัจจุบันนี้ บางทีอาจจะยังไม่ใช่ที่สุด

สิ่งที่เราเก่งปัจจุบันนี้ ในในอนาคต มันบางทีอาจเป็นเพียงแต่ความจำ

ด้วยเหตุว่าอาจมีหลายสาเหตุให้คิดมากขึ้น ได้แก่ จำต้องพับแผนการศึกษาต่อเอาไว้

เนื่องจากว่าเงินไม่เพียงพอจำเป็นต้องดำเนินการหารายได้ก่อน และหลังจากนั้นก็ค่อยไปเรียนศิลป์ที่เราชอบ ...

พวกเราจำต้องดูจังหวะของชีวิตด้วย (ความจำเป็นของชีวิตแต่ละตอน


4. สิ่งที่พวกเราเรียนมาเป็นสิบเป็นร้อยกว่าวิชา มันเป็น "การหล่อหลอม" หลายวิชามิได้

สอนพวกเราทางตรง แต่ให้เราค่อยๆดูดซึมข้อดีแม้กระนั้นอย่างไปเอง ตัวอย่างเช่น ฝึกความอดทน, ฝึกฝนความวิจิตร,

ฝึกหัดความถนัดการเข้าสังคมในกาลครั้งหนึ่งที่เราไม่เห็นประโยชน์ว่าจะใช้อะไรได้จริง เพียงพอโตขึ้นอีกหน่อย

มันก็ควรมีบ้างล่ะที่เราคิดอะไรขึ้นมากระทั่งจะต้องไปพบ อ่ า น ปัดฝุ่นหนังสือเรียนอีกรอบ

ทุกความรู้ที่เราได้รับ ไม่เคยเสียเปล่า เพียงแค่เราไม่เห็นค่ามันเอง ลองนึกถึงให้ดีสิ !

5. มนุษย์เราควรมีลู่ทางให้กับชีวิตไว้หลายด้าน หรือ "มีแผนในการสำรอง"

เพื่อไม่เป็นการปิ ด กั้ นตนเองกระทั่งเกินความจำเป็น ดังเช่นว่า หากวุฒิที่พวกเราเรียนมามันหางาน ย า ก จะยอมรึเปล่าที่เอาวุฒิต่ำลงยิ่งกว่านี้หางานไปก่อน?

ถ้าเกิดพวกเรามิได้อาชีพนี้ พวกเรายอมได้รึเปล่าที่จะทำอาชีพอื่นไปพลางๆก่อน?

ความฝันสิ่งที่ใช่ มันไม่ควรเป็นสิ่งที่ได้ราวกับใจในทันทีทันใดมันเป็นเรื่องธรรมดามากๆที่ต้องแลกเปลี่ยนกับความอ่อนเพลีย

ความ พ ย า ย า ม หลายเท่าตัว ก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าหากจะพบว่าเพราะเหตุไร ห ม อ

บางบุคคลถึงแต่งเพลงได้?

เพราะเหตุใดบางคนเรียนวิชาชีพแต่มาเป็นนักแสดง?

เพราะอะไรบางคนเรียนไม่จบแต่บรรลุผลสำเร็จ?

ถ้ายังไม่เข้าในข้อนี้ ลองย้อนกลับไป อ่ า น ข้อ 4 อีกครั้งขึ้นชื่อว่า "วิชาความรู้" พวกเราได้รับมา

ถึงจะไม่ใช้ในทันทีก็ไม่ควรเสียดาย ขึ้นชื่อว่า "ความฝัน" ถึงจะยังไม่ใช่ในวันนี้

ใช่ว่าวันหน้าจะเป็นไปไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวเราล้วนๆว่า... "รู้ตัวดีไหมว่าทำอะไรอยู่?" และ

"พร้อมจะยืดหยุ่นกับทุกสถานการณ์ชีวิตรึเปล่า?"

อย่ าลืมว่า...โลกเรากลม และก็มีหลายมิติ ใช่ว่าควรต้องมองเพียงแค่ด้านเดียว
ข้อคิดชีวิต
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13507/