ต้นสังกัด โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง

[luktan1479]

สังกัดเดิม โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง หลังประกาศปลดจากพรีเซ็นเตอร์ กระทั่งถึงไม่ได้ทำผิดคำสัญญา ย้ำเป็นเรื่องในอดีต-ไม่ขัดกับข้อบังคับ

วันที่ 20 เม.ย.2566 ที่ ชั้น21 อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ คุณสุจรรยา วิลเลกัส ผู้อำนวยการข้างกฎหมาย บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) ผู้แทน บริษัท จีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ จำกัด ชี้แจงกรณีฟ้องฟ้องร้องคดี บริษัท UGO Nutrition จำกัด หลังบริษัทดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วร่อนหนังสือประกาศปลด โอม ภวัต จิตต์สว่างดี ผู้แสดงในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี เลิกบทบาทหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์

สืบไปจากก่อนหน้านี้ โอม ภวัต พระเอกซีรีส์ดัง เป็นหัวข้อถูกกล่าวถึงในโลกออนไลน์เกี่ยวกับพฤติกรรมในอดีตกาล โดยเจ้าตัวได้ออกมาสารภาพว่าเคยบูลลี่และก็แกล้งสหายที่เป็นออทิสติก และได้ขอโทษ รู้สึกผิด และก็รู้สึกเสียใจ สารภาพว่าเหตุการณ์ตอนนั้นเป็นบทเรียนราคาสูง ซึ่งเพียรพยายามเปลี่ยนแปลงตัวให้ดีขึ้นมาตลอด

ถัดมาแบรนด์ดังกล่าวข้างต้นได้ร่อนหนังสือประกาศปลดดารานำชายหนุ่ม โดยมีรายละเอียดใจความว่า "ประกาศการหยุดหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ให้กับแบรนด์ UGO Nutrition จากเรื่องของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ที่เป็นข้อความสำคัญในโลกอินเตอร์เน็ตช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท UGO Nutrition ไม่เคยนิ่งเฉย และก็ได้เป็นข้างติดต่อต้นสังกัดของนักแสดงอย่างจริงจังบ่อยครั้ง แต่แรกเริ่มขึ้นอยู่กับนิ่งเฉยต่อสิ่งที่บริษัทให้ความเอาใจใส่ตลอดมา"

"UGO Nutrition ให้ความสำคัญกับความรัก คุณประโยชน์ความเท่าเทียม เกียรติความเป็นมนุษย์ แล้วก็ความรับผิดชอบเราก็เลยตกลงใจเลิกหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2566 เป็นต้นไป บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด" จากที่เสนอข่าวสารไปแล้วโดย คุณสุจรรยา พูดว่า "ที่มาในวันนี้ก็เพราะเหตุว่าในกรณีที่ทางบริษัท UGO Nutrition จำกัด ได้มีประกาศเลิกหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี โดยที่ไม่มีเหตุผลอันควรจะในการที่จบบทบาทพรีเซ็นเตอร์อันนั้น รวมทั้งทางจีเอ็มเอ็มทีวีไม่ได้มีการไม่ทำตามสัญญาหรือไม่ถูกกติกาใดๆก็ตามกับทางบริษัท UGO ซึ่งการที่ UGO ออกประกาศลักษณะอย่างงั้นทำให้บริษัทและศิลปินก็คือคุณโอม ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียกิตติศัพท์"



"นับตั้งแต่มีกรณีเกี่ยวโยงคุณโอมในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเกิดเรื่องในอดีตกาลของคุณโอมในวัยเด็ก เป็นการทำที่ไม่ได้ตรงข้ามข้อบังคับนะคะ ต้องบอกแบบนี้ แล้วทางบริษัทเองไม่เคยเฉยเมย พวกเราไม่เคยนิ่ง เรามีการติดต่อพูดจากับทาง UGO มาตลอด มีการสนทนาเพื่อหากติการ่วมกัน"

"พวกเราเจรจากันมาบ่อยครั้ง จนกระทั่งวันก่อนที่ UGO จะมีประกาศตัวนั้นออกมาด้วยซ้ำ โดยเหตุนี้การที่ UGO มีประกาศเลิกหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ออกมา ทางบริษัทจีเอ็มเอ็มทีวีได้รับความย่ำแย่ ทางจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์และก็ศิลปินเลยจำเป็นต้องขอความเป็นธรรมในกรณีนี้ เพื่อรักษาเกียรติศักดิ์และเกียรติของบริษัท รวมถึงนักแสดง โดยพวกเราคงจำเป็นต้องขอพึ่งทางขั้นตอนของศาล เพื่อสงวนไว้ซึ่งสิทธิ์รวมทั้งความทรุดโทรมในเรื่องของชื่อเสียงของบริษัท รวมทั้งนักแสดงถัดไปค่ะ"

เป็นไปได้หรือไม่ว่า จากกระแสข่าวที่เกิดสังกัดโอมทำให้เกิดผลกระทบกับทางแบรนด์ ก็เลยเป็นเหตุให้ตัดสินใจเลิกบทบาทการเป็นพรีเซ็นเตอร์ หากแม้สิ่งที่โอมทำจะไม่ผิดกฎหมาย แม้กระนั้นบางครั้งก็อาจจะผิดในด้านของคุณธรรม? "อันนี้ทางเราอาจจะตอบไม่ได้ อาจจะจะต้องถามทาง UGO ค่ะ แต่ว่าในข้อตกลงสัญญาไม่ได้มีระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ ตอนนี้ทางพวกเราปฏิบัติการฟ้องไปแล้ว ยื่นฟ้องฝ่าฝืนค่าเสียหาย ส่วนจำนวนเงินที่ฟ้องไป อันนี้คงพูดไม่ได้เพราะเหตุว่าเป็นข้อมูลในคดี"

แม้ทาง UGO ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย? "จริงๆมันอยู่ในกรรมวิธีของทางศาล ยังไงทางคู่ความอีกฝั่งหนึ่งเขาย่อมจำเป็นต้องได้รับคำฟ้องอยู่แล้วค่ะ ขั้นตอนการทางศาลจำเป็นต้องพบกันอยู่แล้ว ถามว่านอกรอบไม่มีแล้วใช่ไหม มันยังตอบมิได้ เรายังไม่รู้ ด้วยเหตุว่าพวกเรายังมิได้รับการติดต่อมาจ้ะ"

การที่ตกลงใจฟ้องเป็นเพราะเหตุว่าทางนั้นเขาร่อนจดหมายออกมาใช่ไหม? "เขาไม่ได้ร่อนจดหมายนะคะ อยู่ดีๆเขาก็ประกาศ ในขณะที่เราเจรจากันตลอดเรื่อยมา จนก่อนวันประกาศพวกเราก็ยังมีการคุยกัน แต่จู่ๆเขาก็ประกาศ ซึ่งทางเราไม่เคยทราบค่ะ"

ภายหลังที่เขาประกาศไปแล้ว บริษัทได้รับผลพวงเยอะไหม? "ก็จากที่สื่อออกข่าวก็ก่อให้เกิดผลกระทบกับกิตติศัพท์ของน้องและบริษัทจ้ะ (จากดราม่านี้ยังมีผลต่อกับผลิตภัณฑ์อื่นๆหรืองานอื่นๆของโอมอีกไหม?) เวลานี้ยังไม่เป็นผลกระทบค่ะ"

มองกระแสดราม่าของโอมยังไง เพราะคนไม่ใช่น้อยคิดว่าบริษัทไม่ได้ออกมา Take Action อะไรเลย? "ทางบริษัทคิดว่ามันเกิดเรื่องที่เกิดในอดีตและก็เกิดเรื่องในวัยเด็ก โดยทางโรงเรียนก็ได้ลงโทษตามข้อกำหนดของสถานศึกษา เขาได้รับการลงอาญาไปแล้ว น้องเองก็ได้ขออภัยไปแล้ว และมันไม่ใช่เป็นเรื่องที่กระทำผิดต่อข้อบังคับว่ากันแบบนั้นเหอะ ดังนั้นพวกเราไม่ได้เฉย แต่นี่เป็นเหตุผลอย่างที่พูดว่าเกิดเรื่องในสมัยก่อน และก็เขาได้รับการลงอาญาตามวัยของเขา เป็นตอนนั้นเขายังเด็กอยู่"

แม้กระนั้นคนก็ยังขุดหัวข้อนี้ออกมาอีก เพราะต้องการให้บริษัทออกมาพูดบ้าง? "เป็นอันนี้มีความคิดว่าในด้านของคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เราอาจจะห้ามไม่ได้ว่าผู้ใดกันแน่จะคิดอย่างไร แต่ว่าในทางของบริษัทมองที่ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นมนุษย์จ้ะ คือมันจะต้องมองจากความเป็นจริงที่เกิดมากยิ่งขึ้นกว่าที่จะไปวินิจฉัยตามกระแสสื่อสังคมค่ะ"

ในตอนนี้สภาพจิตใจของโอมเป็นไงบ้าง? "ก็อาจจะไม่ดีหรอกค่ะ (โอมโดนจู่โจมในโซเชียลเยอะแยะ เขามาขอให้ดูแลเรื่องข้อบังคับไหม?) อันนี้ยังไม่เคยทราบเรื่องนะคะ เพราะเหตุว่าถ้าเกิดเราจะดูก็คงเป็นในทางของหัวข้อการทำที่ละเมิดหรือขัดต่อข้อบังคับ ฝ่าฝืนสิทธิของน้อง เราถึงจะมองค่ะ"

การที่บริษัทยื่นฟ้องทางแบรนด์นั้น กลัวคนจะคิดว่าค่ายคุ้มครองโอมเหลือเกินไหม? "จำต้องบอกว่าอันนี้เป็นเรื่องของข้อสรุปและเป็นเรื่องของธุรกิจนะคะ มันเกิดขึ้นจริง อย่างที่โล่งว่าพวกเรามิได้เป็นฝ่ายยุติการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ด้วยเหตุดังกล่าวอันนี้ก็ขึ้นกับกระแสสังคมจะวินิจฉัยจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจ้ะ"
โอม ภวัต
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13731/