• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

🌏การเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring) 👉และ✨ การเจาะสำรวจดินในงานก่อสร้าง✨

Started by dsmol19, July 23, 2024, 07:12:05 PM

Previous topic - Next topic

dsmol19

การสำรวจดิน 🦖คือกรรมวิธีการเจาะลงไปในชั้นดิน, เก็บตัวอย่างดิน, การทดสอบดินในสนาม, หยั่งชั้นดินจากผิวดิน ✅หรือใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งลักษณะชั้นดินทั้งทางแนวดิ่ง และการเปลี่ยนแปลงทางแนวราบ เพียงพอในการที่จะใช้ออกแบบ 📌หรือศึกษาทางด้านปฐพีกลศาสตร์ ลักษณะการเจาะสำรวจดินจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้งานด้วย เช่น งานถนนหรือสนามบิน การสำรวจจะเป็นการเจาะตื้น แต่งานฐานรากลึกต้องเจาะลึกกว่าปลายเข็มที่ใช้ 🎯สำหรับในบทนี้จะพูดถึงวิธีการเจาะสำรวจดินขั้นพื้นฐาน โดยใช้ สว่านมือ, การเจาะล้าง (Wash Boring) 🛒และการเก็บตัวอย่างดินโดยใช้กระบอกเปลือกบาง (Thin Walled Tube)🥇

📢📢📢เหตุผลในการเจาะสำรวจดินก่อนก่อสร้าง✨✨✨

1. เพื่อให้รู้ประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง 🦖ทราบลักษณะเชิงกล เราจะได้เลือกใช้ฐานรากได้ถูกประเภท 🌏เช่น หากดินแข็งพอสมควรอาจใช้ฐานแผ่👉

2. การรู้ความลึกของชั้นดินแข็ง ✨ช่วยในการคำนวณกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม📢 เลือกขนาดและความยาวเสาเข็มที่ต้องใช้ได้🦖

3. การลดความเสี่ยงในการตอกเสาเข็ม 👉เพราะหากพบชั้นดินแข็งแต่ไม่หนาและลึกไม่มาก 🌏อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าถึงชั้นดินแข็ง 📢ทั้งที่จริง ๆ ยังสามารถตอกต่อไปได้ ⚡หากพื้นที่สำรวจมีความผันผวนของดินสูง วิศวกรควรสั่งให้เจาะสำรวจดินหลาย ๆ หลุมให้เพียงพอ เพื่อเปรียบเทียบ 🌏เพราะอาจต้องออกแบบฐานรากหลายแบบ สำหรับการก่อสร้างอาคารในพื้นที่นั้น⚡



📌📌📌การสำรวจดิน (Soil Exploration)🛒🛒🛒

การเจาะสำรวจชั้นดิน🎯คือการการขุดหลุมในดินเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของชั้นดิน📢และเก็บตัวอย่างดินเพื่อนำมาทดสอบคุณสมบัติในห้องปฏิบัติการ🦖โดยทั่วไปวิธีการสำรวจดินที่นิยมในประเทศไทย 🦖ได้แก่

1. การใช้สว่านมือ (Hand Auger) ✅เป็นการเจาะที่ใช้แรงคน โดยใช้เครื่องมือสว่านมือและก้านเจาะดังรูปด้านล่าง 📌โดยที่ก้านเจาะซึ่งยาวประมาณ 1 เมตร สามารถต่อให้ยาวหลาย ๆ ท่อนได้ เมื่อกดพร้อม ๆ กับหมุนก้านจนดินเข้ามาเต็มสว่านแล้วจึงดึงขึ้นเพื่อนำดินออก ✅ดินส่วนนี้สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติบางประเภททางวิศวกรรม 🛒การเจาะด้วยสว่านมือสามารถทำได้ลึกถึง 6-10 เมตรในดินเหนียวแข็งปานกลาง ⚡ข้อเสียของการเจาะประเภทนี้คือไม่สามารถเก็บตัวอย่างดินเพื่อนำมาหาคุณสมบัติด้านความแข็งแรงหรือการทรุดตัวของดินได้เนื่องจากโครงสร้างดินถูกทำลายโดยสว่าน🛒

2. การเจาะโดยใช้การฉีดล้าง (Wash Boring) 🎯คือการใช้การฉีดน้ำด้วยแรงดันสูงเพื่อให้เกิดหลุม และเกิดการรบกวนดินด้านล่างน้อยที่สุด 📢วิธีการเจาะเริ่มโดยการสูบน้ำผ่านก้านเจาะไปยังหัวฉีดที่ก้นหลุมพร้อมกับการกระแทกหรือหมุนของหัวเจาะ ✨ทำให้ดินที่ก้นหลุมถูกฉีดและไหลตามน้ำขึ้นมาบนผิวดินลงในอ่างตกตะกอน จากนั้นสูบน้ำที่ใสนำกลับมาใช้ใหม่ 🌏ดังรูปด้านล่าง วิธีนี้ต้องอาศัยสามขา (Tripod) เครื่องกว้าน (Motor และ Catch head) 🌏และเครื่องสูบน้ำ ในกรณีที่เจาะดินอ่อน จะต้องใช้ปลอกกันดินพัง (Casing)ด้วย โดยต่อเป็นท่อน ๆ ✨และเมื่อเจาะถึงชั้นทรายจะไหลเข้ามาในหลุมจึงจำเป็นต้องผสมสารเบนโทไนต์ (Bentonite) ลงไปกับน้ำ 👉เนื่องจากเบนโทไนต์คือแร่ชนิด มอนต์มอริลโลไนต์ มีความสามารถในการดูดน้ำดีและพองตัวได้มาก 🌏ทำให้ความหนาแน่นของน้ำภายในหลุมมากกว่าน้ำในชั้นทราย✨ น้ำจึงไม่ไหลเข้าในหลุม การเจาะแบบนี้สามารถหยุดเพื่อเก็บตัวอย่างดินได้ตามระยะที่กำหนด 🛒การเจาะสำรวจในกรุงเทพฯ สำหรับการก่อสร้างอาคารจะอยู่ที่ความลึก 30-80 เมตร ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอาคาร⚡