ชาวไทยจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว เป็น “ตับแข็ง” เพราะเกิดจาก เหตุใด

[Joe524]

ตามสถิติ โรค

ตับแข็ง เป็นมูลเหตุของการเสียชีวิตของชาวโลกราว 25,000 คนในแต่ละปี และถูกจัดให้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นจากโรคเป็นลำดับที่ 8โรคตับแข็ง เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเนื้อเยื่อตับถูกทำลายจากหลายกรณีอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง ปรากฏพังผืดในเนื้อตับ ถ้าหากว่ามิได้รับการรักษาที่สมควรจะกลายเป็นตับแข็งท้ายสุด เมื่อเป็นตับแข็ง ตับไม่อาจจะดำเนินงานได้เป็นปกติ ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆดังเช่นว่า โรคที่ทำให้มีอาการตัวเหลือง โรคท้องมาน สับสน เลือดออกง่าย เส้นโลหิตโป่งพองในหลอดทางเดินอาหาร ตับวาย มะเร็งตับรวมทั้งอาจเป็นไปได้ถึงขั้นเสียชีวิตได้  โรคตับแข็งสามารถมีสาเหตุจากหลายสาเหตุ อย่างเช่น                                                                                 
[list=1]

• เชื้อไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง เป็นต้นว่า ไวรัสตับอักเสบบีและซี
• การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากแล้วก็เป็นเวลาอย่างยาวนาน
• โรคท่อน้ำดีฝ่อตั้งแต่ตอนแรกกำเนิด (Biliary atresia)
• การได้รับยาบางตัวยาหรือสมุนไพรจำพวกที่ที่ให้ผลต่อตับ
• สภาวะไขมันคั่งตับ พบได้ทั่วไปในคนอ้วน หรือคนเจ็บเบาหวาน
• การมีภาวการณ์หัวใจทางฝั่งขวาล้มเหลวเรื้อรัง
• มีการอุดตันของหลอดเลือดดำทางออกของตับ

   เมื่อเป็นตับแข็งจะรักษาได้แบบใด                                                                                                     
[list=1]

• รักษาตามต้นสายปลายเหตุที่ส่งผลให้เกิดโรคตับ ยกตัวอย่างเช่น โรคตับจากดื่มแอลกอฮอล์ ควรหยุดการดื่มแอลกอฮอล์ โรคตับจากไวรัสตับอักเสบบีแล้วก็ซี ควรรักษาโดยการใช้ยาต้านทานเชื้อโรค ไขมันพอกตับควรจะควบคุมโภชนาการอาหารชนิดแป้ง น้ำตาลรวมทั้งไขมัน เล่นกีฬาเป็นประจำ
• ดูแลเอาใจใส่สุขภาพร่างกายให้แข็งแรง กินอาหารครบกลุ่ม สารอาหารและก็พลังงานพอเพียง ไม่รับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุกไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งหลีกเลี่ยงยาที่ไม่จำเป็น
• ควรเจอหมอตามนัดทุกครั้ง เพื่อเข้ารับการดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนจากโรคตับ

 ในอดีตโรคตับแข็งไม่สามารถทำการรักษาให้หายสนิทได้ เว้นเสียแต่การเปลี่ยนถ่ายตับในกรณีที่โรคเป็นมากแล้ว แต่ถึงอย่างไรปัจจุบันนี้พบว่าการเอาปัจจัยที่กระตุ้นให้ตับเสียหายออกไปได้ก็สามารถทำให้รูปแบบการทำงานของตับดีมากยิ่งขึ้นได้ อาทิเช่น การใช้ยาต้านทานเชื้อไวรัสบีหรือซี การหยุดดื่มแอลกอฮอล์ การให้ยาขับเหล็กหรือทองแดง ฯลฯ